วัดเซ็นโซจิ หรือ วัดอาซากุสะ วัดที่ได้ชื่อว่าเป็น วัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และ ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดแห่งหนึ่งใน กรุงโตเกียว วัดอาซากุสะ แห่งนี้มีสัญลักษณ์เป็น โคมสีแดงใหญ่ ทำให้ผู้คนที่ ผ่านไป ผ่านมา หรือนักท่องเที่ยวจดจำวัดนี้ได้เป็นอย่างดี และ ด้วยที่ตั้งที่อยู่ในย่านอาซากุสะ ทำให้ทุกคนเรียกวัดนี้ว่าวัดอาซากุสะ นั่นเอง
วัดนี้ เป็นวัดพุทธที่นับถือ เจ้าแม่กวนอิม และเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุด ในโตเกียวเลยทีเดียว ภายในประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำ ที่ศักดิ์สิทธิ์ ขนาด 5.5 เซนติเมตร
เมื่อปี ค.ศ. 628 ตามตำนานเล่ากันว่า มีสองพี่น้อง ชาวประมง หาปลาที่แม่น้ำสุมิดะเป็นปกติ มีอยู่วันหนึ่งสองพี่น้อง จับปลาในแม่น้ำไม่ได้เลยสักตัว ทั้งสองคนจึงอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้จับปลาได้สักตัว หลังจากอธิษฐาน ทั้งสองคนได้เหวี่ยงแหออกไป แต่ปรากฏว่า สิ่งที่ติดแหขึ้นมานั้นคือ รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมทองคำ สูง 5 นิ้ว
หลังจากนั้น สองพี่น้อง ได้เปลี่ยนบ้านของพวกตน ซึ่งอยู่ในเขตอาซากุสะ เป็นวัดขนาดเล็ก และ นำพระพุธรูปเจ้าแม่กวนอิมทองคำ ที่พบมาประดิษฐานไว้ เพื่อให้คนในหมู่บ้านมากราบไหว้ ซึ่งผู้ที่มาขอพรนั้น ต่างก็สมปรารถนา จนชื่อเสียงด้านความศักดิ์สิทธิ์ ของเจ้าแม่กวนอิมทองคำองค์นี้ ค่อย ๆ แผ่ขยายไปทั่วประเทศญี่ปุ่น จึงทำให้มีผู้คนหลั่งใหลมากราบไหว้บูชามากมาย และ เมื่อโชกุนโทคุกาวะ อิเอมิทซึ รู้เข้า จึงมีคำสั่งให้ปรับปรุงตัวอาคาร และ พื้นที่รอบ ๆ วัด เรื่อยมาจนกลายเป็น วัดเซนโซจิ จนถึงปัจจุบัน เรียกได้ว่าอยู่คู่เมืองโตเกียวมาอย่างยาวนาน
โดยวัดแห่งนี้เคยถูกระเบิด เผาทำลายไปในช่วง สงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ปัจจุบันมีการบูรณะตัววัด ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เพื่อเป็นสัญลักษณ์ ของการเกิดใหม่ และ ความสงบสุข ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ และ อายุที่ยาวนาน ทำให้วัดนี้เป็นวัดที่ชาวญี่ปุ่น นิยมมาสักการะบูชา ขอพร รวมถึงนักท่องเที่ยวก็นิยมไม่แพ้กัน จึงทำให้เป็นวัดที่มีความคึกคักตลอดทั้งปี
ภายใน จะมีการสักการะเทพเจ้าคันนง โดยการรดน้ำ และตรงกลางวัดจะมี กระถางธูปขนาดใหญ่ ซึ่งมีความเชื่อว่า ถ้าผู้ใดได้รับควันธูปจากกระถางธูปนี้ จะโชคดีมีสุข นอกจากนี้ยังมีการทำบุญไหว้พระ ด้วยการโยนเหรียญลงในกล่อง และการเสี่ยงเซียมซี ซึ่งได้รับความนิยมมาก เพราะเป็นเซียมซีตามแบบโบราณดั้งเดิม
เครื่องรางวัดอาซากุสะ หรือ โอะมาโมริ ได้รับการกล่าวขานว่ามี ความขลังมาก และมีหลากหลายแบบ ทั้งเครื่องราง การเงิน การงาน สุขภาพ ความรัก โชคลาภ ช่วยเสริมดวง และให้สมหวังในเรื่องต่าง ๆ ใครที่มาเยือน ก็มักนิยมซื้อเครื่องรางกลับไป เป็นของที่ระลึก ของฝาก หรือพกติดตัวไว้ เพื่อเสริมดวง ให้สมหวัง ให้มีโชค มีลาภ
ประกอบกับ ภายในวัดยังเป็นที่ตั้งของ โคมไฟยักษ์ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยความสูง 4.5 เมตร ซึ่งแขวนห้อยอยู่ ณ ประตูทางเข้า ที่อยู่ด้านหน้าสุดของวัด ที่มีชื่อว่า “ประตูฟ้าคำรณ”
และถนนจากประตูเข้าสู่ตัววิหาร ที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมทองคำ มีชื่อว่า ถนนนากามิเซะ (NAKAMISE ROAD) ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านค้า ขายของที่ระลึกพื้นเมืองต่าง ๆ มากมาย เช่น ขนมคิบิดังโงะ ขนมแป้งทอด จากร้านคิมุระยะ และขนมนานาชนิด ของเล่น รองเท้า พวงกุญแจที่ระลึก ฯลฯ ให้ทุกท่านได้เลือกซื้อ เป็นของฝากของที่ระลึก
ส่วนขนมแบบที่ ซื้อแล้วกินเลย เช่น Soft ice cream, มันอัดแท่ง, ซาลาเปาทอด, ข้าวพองคล้ายขนมนางเล็ด ทางร้านจะให้เรายืนกินที่หน้าร้านเท่านั้น ไม่ให้เดินไปกินไป เพราะเป็นกฏของร้านค้า ย่านถนนนากามิเซะ เพื่อไม่ให้ขนมหกเลอะเทอะบนถนน
สำหรับท่านใดสนใจไปเยี่ยมชม วัดอาซากุสะ สามารถเลือกดูได้ที่ โปรแกรมทัวร์ญี่ปุ่น