วัดคิโยมิสึซุเดระ ( 清水寺 Kiyomizu-dera) หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ วัดน้ำใส วัดเก่าแก่อายุ 1200 ปี ตั้งอยู่บนเขาโอโตวะ (Otowa-san) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง เกียวโต ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์เกียวโตโบราณ (Historic Monuments of Ancient Kyoto) และ ด้วยสถาปัตยกรรมโบราณที่งดงามทำให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย องค์การยูเนสโก้ (UNESCO world heritage sites) และ อาคารหลักของ คิโยมิซูเดระ ยังได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในสมบัติประจำชาติญี่ปุ่น อีกด้วย
ชื่อของ วัดคิโยมิซุเดระ ( 清水寺 Kiyomizu-dera) มีที่มาจาก น้ำตกโอโตวะ (Otowa) ที่ไหลผ่านเนินเขาลงมาบริเวณวัด คิโยมิซุ หมายถึง น้ำสะอาด หรือ น้ำบริสุทธิ์
ตามทางเดินขึ้นไปวัด ก็จะมีร้านขายของที่ระลึก ร้านของฝาก ที่มีขนมให้ได้เลือกซื้อกัน
ส่วนใครอยากใส่ชุดกิโมโนถ่ายรูปสวย ๆ เดินขึ้นไปอีกหน่อยก็จะมีร้านให้เช่าชุดกิโมโน
ขึ้นมาเราก็จะเจอ นิโอะมอน (Nio-mon) ที่ดึงดูดสายตานักท่องเที่ยว ด้วยความงดงาม เป็นซุ้มประตูทางเข้าหลักของวัดน้ำใส ที่มีความสูง 14 เมตร และ กว้าง 5 เมตร เคยถูกไฟไหม้ สมัยสงครามใน ศตวรรษที่ 14 และสร้างขึ้นใหม่ ในศตวรรษที่ 16 อีกทั้งมีการปรับปรุงใหม่เมื่อปี ค.ศ. 2003
ไซมอน (Sai-mon) ซุ้มประตูทิศตะวันตก อยู่ไม่ไกลมาก จากซุ้มประตูหลัก จากมุมนี้ถือว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกของวัตได้
เจดีย์ 3 ชั้น ที่มีความสูง 31 เมตร สามารถมองเห็นได้จากเมืองเกียวโต
จุดเด่นของ วัดน้ำใส หรือ วัดคิโยมิซุเดระ นั่นก็คือ ฮอนโดะ (Hondo) อาคารไม้หลังใหญ่ ที่มีเสาสูงรองรับ เสาของอาคารมีความสูงถึง 13 เมตรจากพื้นดิน โดยทั้งอาคารไม่มีตะปูแม้แต่อันเดียว และ โถงอาคารสร้างยื่นออกจากด้านข้างของเนินเขาทำให้บริเวณนี้เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม มองเห็นเมืองเกียวโต ในฤดูต่าง ๆ และ เป็นจุดชม ซากุระ และ ชมใบไม้เปลี่ยนสี ที่ขึ้นชื่อของเมืองเกียวโต อีกด้วย
การเข้าชมอาคารหลัก ต้องซื้อบัตรเข้าชมด้วย ราคาผู้ใหญ่ ประมาณ 400 เยน
ข้างใต้หอหลัก มีน้ำตกโอโตวะ ที่แบ่งออกเป็นสายน้ำ 3 สายไหลลงสู่บ่อน้ำ ผู้เข้าชมสามารถตักน้ำมาดื่มได้ ด้วยความเชื่อว่ามีพลังขอพรให้ตนเองได้ โดยน้ำตกแต่ละสายจะมีความเชื่อที่ต่างกัน
ดื่มน้ำสายที่หนึ่ง จะประสบความสำเร็จ ด้านการศึกษา
ดื่มน้ำสายที่สอง จะสมหวัง ด้านความรัก
ดื่มน้ำสายที่สาม จะทำให้มี สุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว
ขั้นตอนการดื่มน้ำ
1. ต่อคิวตักน้ำบนศาลา ห้ามลงไปตักที่ด้านล่าง
2. ให้รองน้ำด้วยกระบวยเท่านั้น นำกระบวยเข้าฆ่าเชื้อโรค ในเครื่องฉายรังสีฆ่าเชื้อ
3. หากต้องการนำน้ำกลับบ้าน หรือ ต้องการกระบวยส่วนตัว ให้ซื้อกระบวยของทางวัด ราคาประมาณ 300 เยน
4. เทลงน้ำจากกระบวยลงฝ่ามือ และ ดื่มจากฝ่ามือ หรือ ดื่มผ่านกระบวยที่ซื้อมา
นอกจาก การดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์แล้ว ภายในบริเวณวัดน้ำใส ยังมีศาลเจ้าจิชู (Jishu-shrine) หรือที่เรียกกันว่า ศาลเจ้าแห่งความรัก ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อสักการะเทพโอกูนินูชิ เทพแห่งความรัก และ เนื้อคู่ ภายในศาลเจ้าแห่งนี้ จะมีก้อนหิน 2 ก้อนเรียกว่า เมกุระอิชิ ที่หมายความว่า หินตาบอด หรือ หินแห่งความรัก ตั้งอยู่ห่างกัน 18 เมตร โดยเชื่อกันว่า หากใครสามารถหลับตาเดินจากก้อนหินก้อนหนึ่ง ไปยังหินอีกก้อนหนึ่งได้ ขณะที่ท่องชื่อคนรักไว้ในใจ ก็จะสมปรารถนาในความรัก หรือ ให้คู่ของตนยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่งของหิน แล้วให้คนที่ปิดตา เดินมาหาคนที่อยู่อีกฝั่งนึงให้ได้ โดยไม่หลงทิศทาง ก็จะเป็นการพิสูจน์รักแท้ของกันและกัน
สำหรับท่านใดสนใจไปเยี่ยมชม วัดน้ำใส สามารถเลือกดูได้ที่ โปรแกรมทัวร์ญี่ปุ่น